บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

สรุปประเด็น ค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

ข่าวร้อนในสัปดาห์นี้เกิดขึ้นทันทีเมื่อตำรวจไซเบอร์บุกไปยังบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับหมายค้นและหมายจับ เนื่องจากพบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจมาก เนื่องจากบิ๊กโจ๊กเป็นนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่นและเป็นตัวแทนอันดับหนึ่งจาก 4 ผู้เสนอชื่อสำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่จะตัดสินในวันที่ 27 กันยายน 2566 นี้

เหตุการณ์นี้ทำให้มีคำถามเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่างการบุกบ้านบิ๊กโจ๊ก กับ เว็บพนัน หรือเป็นการเตะตัดขากันในวงการสีกากี ตำรวจไปค้นบ้านของบิ๊กโจ๊กช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยนำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญากรุงเทพมาด้วย และค้นพบเว็บพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง บิ๊กโจ๊ก เปิดประตูบ้านในชุดนอนและแสดงท่าทีที่ไม่พอใจ ตอนแรกเขาปฏิเสธไม่ให้ค้นบ้านและตำหนิชุดพนักงานสอบสวน แต่หลังจากนั้นพล.ต.ท.วรวัฒน์ กิตติประภัสร์ (บิ๊กเจี๊ยบ) ผู้บัญชาการ สอท. มาถึงบ้านของบิ๊กโจ๊ก เขาก็ยอมให้ตำรวจตรวจค้นบ้านพัก โดยไม่อนุญาตให้สื่อและบุคคลทั่วไปเข้าไปด้วย

“บิ๊กโจ๊ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

การบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊กนำไปสู่การออกหมายจับตำรวจ 8 คน ทั้งสัญญาบัตรและชั้นประทวน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์และการฟอกเงิน เนื่องจากมีการโอนเงินจำนวนมหาศาลเข้าบัญชีของกลุ่มนี้ ขณะที่บิ๊กโจ๊กยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนัน แต่ถ้าลูกน้องของเขาถูกออกหมายจับเพราะเป็นชื่อในบัตร จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนของเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เขายืนยันว่าเกี่ยวข้องเฉพาะกับการปราบปรามอาชญากรรมเท่านั้น

บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันว่าไม่หนักใจเรื่องนี้และไม่เห็นว่ามันเป็นการสกัดกั้น แต่เป็นเรื่องการทำหน้าที่ของ สอท. โดยทาง สอท. ก็ระบุว่าในหมายค้นไม่ได้ระบุชื่อบิ๊กโจ๊ก ดังนั้นไม่ทราบว่าเขาอาศัยอยู่ในบ้านนั้นหรือไม่ ส่วนรายละเอียดในการสืบสวนคดีนี้ยังไม่รู้เนื่องจาก สอท. เป็นหน่วยร่วม ไม่ได้รับข้อมูลละเอียดในการสืบสวนคดีนี้

บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่ายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีกลับทนายความดังที่กล่าวหาว่าบิ๊กโจ๊กมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ แต่บิ๊กโจ๊กยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อดิสเครดิตและทำให้เสียชื่อเสียง เขากล่าวว่าเป็นการชกใต้เข็มขัดและไม่เป็นไปตามกฎหมาย และขอให้คดีทุกคดีดำเนินตามกฎหมาย ถ้ามีการละเมิดอำนาจศาล ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในทำนองเดียวกัน บิ๊กโจ๊กกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีผลต่อการทำหน้าที่ของตำรวจและเป็นเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นี่เป็นการดิสเครดิตและทำให้เสียชื่อเสียงของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการชกใต้เข็มขัดและมีคดีหลายคดีที่ไม่ได้ระบุชื่อ จึงเป็นเหตุการณ์ที่มีความน่าสนใจในวงการสีกากีและยังเป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงใกล้ชิดในสังคมไทย