ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดียาเสพติดและฟอกเงินของนายอัครกิตติ์ หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” และผู้ร่วมจำเลยอื่น ๆ ได้สร้างความสนใจและติดตามจากประชาชน ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ศาลได้ทำการพิพากษายกฟ้องข้อหาค้ายาเสพติดของ “เบนซ์ เรซซิ่ง” ในขณะที่ข้อหาฟอกเงินยังคงอยู่ แต่เนื่องจากได้เสียความอิสระอยู่ในเรือนจำเกินระยะเวลาที่ควรจะรับโทษแล้ว ศาลจึงอนุญาตให้เขาปล่อยตัวในช่วงเย็น
คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้อง “เบนซ์ เรซซิ่ง” และผู้ร่วมจำเลยอื่น ๆ ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและฟอกเงิน ซึ่งในชั้นพิจารณาแรก ศาลได้พิพากษาให้ “เบนซ์ เรซซิ่ง” จำคุก 8 ปี สำหรับข้อหาฟอกเงิน และยกฟ้องข้อหาค้ายาเสพติด ศาลอุทธรณ์จากนั้นได้พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจนรวมเป็น 36 ปี 8 เดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาสรุปว่าข้อหาค้ายาเสพติดไม่สามารถพิสูจน์ได้ เนื่องจากพยานและหลักฐานไม่เพียงพอ ในขณะที่ข้อหาฟอกเงินที่ “เบนซ์ เรซซิ่ง” ถูกสั่งโทษ ได้รับการปรับลดลงเนื่องจากได้รับโทษในเรือนจำเกินเวลาที่ควรจะรับ
ทั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ย้ำความสำคัญของระบบยุติธรรมที่ต้องยึดถือหลักฐานและความเป็นจริงเป็นหลัก แม้ว่าความคิดเห็นของสาธารณชนอาจจะแตกต่างกัน หลังจากคำพิพากษานี้ “เบนซ์ เรซซิ่ง” และคนในครอบครัวได้รับความส relieved หลังจากที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเครียดในช่วงที่ผ่านมา และเรื่องราวนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึงความซับซ้อนและความท้าทายในการจัดการกับคดียาเสพติดและฟอกเงินในประเทศไทย