กรณีการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับ “ใหม่” หนุ่มโรงงานโดย “ช่างกิต” ซึ่งเป็นชายชู้ของ “พร” ภรรยาผู้ตาย, เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงปัญหาซับซ้อนในสังคม และได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในรายการ “โหนกระแส” ที่ได้เชิญเพื่อนร่วมงานของช่างกิตและพรมาเล่าถึงประสบการณ์ที่มีกับทั้งคู่ พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างช่างกิตและพรนั้นมีความซับซ้อนและแฝงไปด้วยปัญหามากมาย
จากการเล่าของเพื่อนร่วมงาน พรได้เข้ามาทำงานและเริ่มมีความสัมพันธ์กับช่างกิตหลังจากที่ยืนยันว่าเลิกกับแฟนเก่าชื่อ “เอกชัย” แล้ว การที่พรมีสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับช่างกิตถูกเล่าว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความสัมพันธ์ทางเพศที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่างกิตเองก็ได้แสดงความไม่พอใจต่อความต้องการทางเพศสูงของพรอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือการที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการมีสามีชื่อ “ใหม่” ของพรจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การฆาตกรรม สิ่งนี้บ่งบอกถึงความลับและความไม่โปร่งใสในความสัมพันธ์ของพร รวมถึงการที่ช่างกิตอาจไม่ทราบเกี่ยวกับสถานะการแต่งงานของพรจริงๆ
การที่พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์แบบนี้มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็เป็นข้อมูลที่สามารถสนับสนุนคำให้การของพรได้ การที่พรมีสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคนเพื่อเงินและการที่เธออาจได้เข้าไปในบ้านเอกชัยในคืนที่ใหม่ออกไปทำงาน สามารถถูกตีความได้หลายอย่าง ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศ แต่ยังรวมถึงการสร้างหลักฐานที่อยู่ด้วย
คำแนะนำของพล.ต.ท.เรวัชที่ว่า “อีหนูอย่าบวชเด็ดขาด” แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและความคิดเห็นส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับพฤติกรรมและสถานะของพรในสังคม ซึ่งอาจจะเป็นการสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนศาสนาหากพรเลือกที่จะบวช